Space Jam A New Legacy (2021) สเปซแจม สืบทอดตำนานใหม่

Space Jam A New Legacy (2021) สเปซแจม สืบทอดตำนานใหม่

คงจะต้องสารภาพตรงๆ ว่า…แทบไม่เหลือความทรงจำใดๆ เกี่ยวกับหนังภาคที่แล้วเลย ซ้ำยังไม่แน่ใจว่าเคยดูไหม แต่คาดว่าน่าจะเคยดูตอนที่ยังเยาว์มากๆ รู้แค่เพียงในภาคก่อนนั้นมีตำนาน “ไมเคิล จอร์แดน” มาเป็นนักแสดงหลัก แต่กลับมาในภาคนี้ถัดมาอีก 25 ปีต่อมา

ตำนานคนใหม่ได้ขึ้นมาโลดแล่นแทน และกลายออกมาเป็น “Space Jam: A New Legacy” (สเปซแจม สืบทอดตำนานใหม่) หนังแอนิเมชั่นผสมคนแสดงจริงที่ตระการตากับงานสร้างที่แทบไม่กะพริบตา แม้จะเสียดายอยู่หน่อยๆ ตรงที่หนังต้องตัดใจนำออกมาฉายในช่วงสถานการณ์เช่นนี้ ที่มีแค่คนต่างจังหวัดเท่านั้นที่ได้ดู…

Space Jam: A New Legacy เล่าเรื่องราวเมื่อ เลอบรอน และ ดอม ลูกชายของเขาติดอยู่ในมิติแห่งโลกดิจิตอลโดยฝีมือของหุ่นยนต์เอ.ไอตัวร้าย เลอบรอนมีทางเลือกเดียวที่จะสามารถพาคนที่รักกลับบ้านได้อย่างปลอดภัย นั่นก็คือรวมตัวบั๊ก และ โลล่า บันนี่ กับชาวแก๊งลูนีย์

ทูนส์ที่เลื่องชื่อในความวายป่วงเพื่อเอาชนะหุ่นยนต์แชมป์เปี้ยนระดับโปรเพลย์เยอร์ผู้เป็นเจ้าของทักษะกีฬาที่ไม่เคยมีใครเห็นมาก่อนในสนามแข่งขันบาสเก็ตบอลให้ได้แม้ว่าการแข่งขันครั้งนี้จะเป็นการเดิมพันที่ท้าทายที่สุดในชีวิตแต่นี่ก็อาจเป็นโอกาสให้ เลอบรอนได้สานสัมพันธ์ครั้งใหม่กับลูกชายของเขาให้แน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้น

แน่นอนว่าตำนานเทพแห่งวงการบาสเก็ตบอลในยุคนี้ “เลอบรอน เจมส์” กระโดดมารับหน้าที่สืบทอดตำนานบทใหม่ในหนังภาคนี้ ก็คงจะไม่วิพากษ์วิจารณ์อะไรมาก เพราะเขาเองก็ไม่ใช่นักแสดงโดยหลักอยู่แล้ว แต่ออร่าและความเป็นซุปตาร์ในตัวเขาก็ได้เปล่งประกายเจิดจรัสออกมาในหนังอย่างลื่นไหล แม้ว่าแอคติ้งจะติดๆ ขัดๆ ไปบ้าง แต่ก็ไม่ใช่ปัจจัยที่กลายเป็นข้อเสียในหนังเรื่องนี้อะไร เพราะเขาก็แสดงออกมาเป็นตัวเอง เลอบรอน เจมส์ ก็คือ เลอบรอน เจมส์

หนังภาคนี้ได้ “มัลคอล์ม ดี. ลี” เจ้าพ่อหนังตลกผิวสี มานั่งเก้าอี้กำกับให้ แต่ด้วยสเกลงานที่ค่อนข้างใหญ่และต่างจากชิ้นงานก่อนๆ ที่เขาเคยทำ ดูเหมือนว่าผลลัพธ์ที่ออกมาจะไม่ค่อยราบรื่นเท่าที่ควร ถึงแม้ว่า Space Jam: A New Legacy จะเต็มด้วยสูตรสำเร็จและความคลีเช่น่าเบื่อๆ เกลื่อนอยู่ในหนังไปหมด การเล่าเรื่องก็ซ้ำวากจำเจเดิมๆ แทบจะหมดอารมณ์ดูในช่วงปูเรื่องแรกๆ ไปเลย ยังดีที่เทคนิคพิเศษและซีจีของหนังค่อนข้างทำออกมาได้ตระการตาและสวยเฉียบอยู่ในหลายๆ ฉาก

ขณะที่บทหนังค่อนข้างเป็นจุดด้อยที่สุดของเรื่อง เพราะโครงเรื่องที่อ่อนและกระจิดริด ความไม่สมจริงและไม่สมเหตุสมผลเยอะเกินไปจนรู้สึกเลี่ยน กลายเป็นความรู้สึกว่า…อะไรก็ใส่เข้ามาก็ได้เถอะ จึงกลายเป็นหนังที่ดูเหมือนจับยัดใส่ๆ อะไรต่างเข้ามาเยอะไปหมด และก็ใส่รายละเอียดกับปมต่างๆ ที่ปูเอาไว้ได้ไม่หนักแน่นพอ มาถึงจังหวะอยากจะสรุป ก็ตัดฉับ…ใช้วิธิเกมโกงเข้ามาในหนังเสียอย่างนั้น

แม้ว่าหนังจะสอดแทรกประเด็นสังคมและครอบครัวในยุคใหม่เข้ามาในเรื่อง แต่กลับไม่ได้รับการเอาใจใส่เท่าที่ควรนัก จึงกลายมาเป็นหนังที่ไปได้ไม่สุดสักทาง แค่ดูเพลินๆ ผ่านๆ ไปเท่านั้น ซึ่งนับว่ายังดีที่ตัวละครในจักรวาลลูนีย์ ทูนส์ ของ วอร์เนอร์ บราเธอร์ส มาช่วยพยุงในเรื่องเสน่ห์ของหนังเอาไว้ได้ค่อนข้างเยอะมาก บอกได้เลยว่าใครๆ ที่เติบโตมากับคาแรกเตอร์การ์ตูนเหล่านี้จะต้องฟิน…อิ่มอกอิ่มใจแน่ๆ

เอาเป็นว่า Space Jam: A New Legacy ไม่ใช่หนังภาคใหม่ที่ดีอะไรเลย แต่หนังก็ไม่ได้ย่ำแย่ถึงกับทนดูไม่ได้ จะบัญญัติให้เป็นหนังสำหรับดูฆ่าเวลาก็จะใจร้ายไปสักหน่อย เอาว่าเป็น…เป็นหนังที่ดูคลายความคิดถึงไปเพลินๆ ก็แล้วกัน เพราะการได้กลับไปดื่มด่ำกับจักรวาลของลูนีย์ ทูนส์ อีกครั้งเป็นอะไรที่ฟินจริง ได้ดูการ์ตูนที่คุ้นเคย มีอีสเตอร์สโผล่ออกมาให้เฝ้าสังเกตสนุกๆ อีกทั้งยังสอดแทรกและแซะบรรดาตัวละครจากหนังดังๆ ของวอร์เนอร์ฯ ในหลายเรื่องอีก ที่ทำให้อดยิ้มไม่ได้เลยจริงๆ

ตัวอย่างหนัง Space Jam A New Legacy (2021) สเปซแจม สืบทอดตำนานใหม่