Compartment No.6 ละลายหัวใจที่ปลายโลก
Compartment No.6 ละลายหัวใจที่ปลายโลก
แม้ว่าสถานการณ์ทางการเมืองและทางการทหารจะค่อนข้างร้อนระอุอยู่ในช่วงนี้ แต่กระนั้นมีผลงานหนังจากรัสเซียเรื่องเล็กๆ เรื่องหนึ่งที่พอจะมาช่วยบรรเทาและเติมความเย็นใส่เข้าในบรรยากาศที่เกิดขึ้นอยู่ กับหนังโรแมนติกควบคู่กับการเดินทาง “Compartment No.6” (ละลายหัวใจที่ปลายโลก) หนังที่ติดโผเป็น 1 ใน 5 เรื่องที่ได้เข้าชิงรางวัลออสการ์ 2022 สาขาภาพยนตร์ต่างประเทศยอดเยี่ยม ที่กลายเป็นหนังที่พกโจทย์เล็กๆ มาขยายออกมาเป็นความพองโตไปทั่วขบวนรถไฟสายที่มุ่งหน้าไปยังเมืองหนาวเหน็บที่เฉียดใกล้ขั้นโลกเหนือ
Compartment No.6 ละลายหัวใจ ที่ปลายโลก เป็นเรื่องราวของ ลอร่า นักศึกษาชาวฟินแลนด์ที่มาเรียนอยู่ในรัสเซีย เธอต้องการหลีกหนีความสัมพันธ์อันยุ่งเหยิงจากกรุงมอสโคว ด้วยการขึ้นรถไฟมุ่งหน้าไปยังเมืองเมอร์มันส์ค เมืองท่าอันหนาวเหน็บริมมหาสมุทรอาร์คติก ลอร่าบอกใครๆ ว่าเป้าหมายของการเดินทางเพื่อต้องการดูภาพแกะสลักหินโบราณ แต่ลึกๆ ในใจของเธอแล้ว เธอหวังว่าระยะทางอันยาวไกลกับความเย็นยะเยือกของอากาศจะสามารถช่วยทำให้ใจช้ำๆ ของตัวเองเป็นใจที่ด้านชา แต่ปรากฏว่าในตู้รถไฟหมายเลข 6 ตู้นั้น…หัวใจของลอร่ากลับอบอุ่นมาขึ้นอีกครั้ง
คงต้องสารภาพตรงๆ ว่า การตีตั๋วมาดูหนัง Compartment No.6 เรื่องนี้นั้น แทบจะไม่มีข้อมูลพื้นฐานใดๆ เกี่ยวกับหนังเรื่องนี้เลย ทราบแค่เพียงว่าเป็นหนังที่ได้เข้าชิงรางวัลออสการ์ในปีนี้ และส่วนตัวก็ไม่ค่อยจะมีประสบการณ์กับหนังทางฝั่งรัสเซียมากสักเท่าไหร่นัก และนี่ก็คือหนังที่พูดภาษารัสเซียปะปนกับภาษาฟินนิชไปทั้งเรื่อง นี่เป็นผลงานของนักทำนักดาวรุ่งชาวฟินแลนด์ “ยูโฮ คูโอสมาเนน” ที่นับว่าผลงานชิ้นเป็นงานหนังเรื่องยาวเรื่องที่ 2 ของเขา และยังร่วมเขียนบทหนังด้วย โดยดัดแปลงมาจากนิยายของ โรซา ลิกซอม
ก็ต้องบอกไว่ไม่เคยได้มีโอกาสดูผลงานก่อนๆ ของผู้กำกับรายนี้ รวมทั้งยังไม่เคยสัมผัสกับลีลาการแสดงของนักแสดงนำในเรื่องด้วย และนี่ก็คือประสบการณ์แปลกใหม่ครั้งแรกล้วนๆ และก็พบว่า Compartment No.6 เป็นหนังเกี่ยวกับการเดินทางที่มีสโคปเรื่องราวเพียงแค่เล็กๆ แต่กลับขยายความออกมาระหว่างเส้นทางการเดินทางของตัวละครได้อย่างเติบโตยิ่งขึ้นเรื่อยๆ อย่างน่าสนใจ จนกลั่นกรองออกมาเป็นหนังรักที่มีรสชาติที่อบอุ่น ปะปนไปกับความหวานอมขมกลืนอย่างบอกไม่ถูก
โครงเรื่องของหนังก็อย่างกับพวกละครไทย เพราะเริ่มต้นด้วยความไม่ชอบขี้หน้ากันและกันของตัวละครหลัก แต่ด้วยการคลุกคลีกับการเดินทางในการโดยสารรถไฟตู้เดียวไปตลอดหลายวัน กลายเป็นการจูนปรับเข้าหากันและเรียนรู้เรื่องราวของกันและกันเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ด้วยการทะลายกำแพงที่ก่อขึ้นเอาไว้ตั้งแต่แรกพบไปที่ละชั้นๆ คือหนังก็แอบทำให้เรานึกถึงหนังไทยอย่าง กวน มึน โฮ อยู่หน่อยๆ ด้วยโครงที่ว่าด้วยชายหญิง 2 คนที่เพิ่งจะมาเจอกัน ณ สถานที่ที่ต้องอยู่ด้วยกัน และยังมากับความช้ำที่ปกปิดอยู่ข้างใน กลายเป็นเส้นเรื่องสูตรสำเร็จที่ใช้ได้เวิร์กเสมอๆ
แต่หากว่าจะมองเป็นมุมมองเทียบกับหนังดังๆ ระดับสากล จะว่าชวนให้คิดถึง “Lost in Translation” หรือ “In the Mood for Love” ผสมความเป็น “Before Sunset” แบบที่นักวิจารณ์เมืองนอกยกมาเทียบกันก็ไม่ผิด การแสดงของ “เซดี ฮาร์ลา” กับ “ยูริ บาริซอฟ” ออกมาเป็นธรรมชาติมาก เป็นการแสดงที่เหมือนไม่ใช่การแสดงเลยสักนิด ทั้งคู่สามารถถ่ายทอดอารมณ์ของตัวละครออกมาได้ชัดเจน แม้ว่าจะเป็นหนังโรแมนซ์ แต่กลับไม่ได้ใส่ความโรแมนซ์เข้าไปในหนังแบบโต้งๆ ด้วยเทคนิคการแสดงที่ค่อนข้างน่าประทับใจไม่น้อยเลย
นอกจากนี้ องค์ประกอบโปรดักชั่นและองค์ประกอบศิลป์ใน Compartment No.6 ยังค่อนข้างน่าสนใจ ด้วยความที่หนังมีฉากหลังเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงยุคปี 90s เป็นหลัก พวกเขาสามารถเก็บรายละเอียดต่างๆ ของรัสเซียในช่วงที่เพิ่งจะพ้นสภาพจากการเป็นสหภาพโซเวียตได้อย่างกลมกลืน อีกทั้งยังความท้าทายด้วยการใช้การถ่ายทำหนังด้วยการฟิล์มแบบยุคก่อน เพื่อสร้างอารมณ์ให้กับโทนหนังที่เป็นหนังย้อนไปในยุค 90s ได้อย่างกลมกล่อมดีอีกด้วย
เอาเป็นว่า Compartment No.6 นับว่าเป็นหนังรัสเซียที่ค่อนข้างน่าสนใจ มีองค์ประกอบหลายๆ อย่างที่ทำออกมาได้ดีและมือถึง ต้องชื่นชมการแสดงของ เซดี ฮาร์ลา ที่เอาหนังทั้งเรื่องได้อยู่หมัด แม้ว่าบทหนังจะยังค่อนข้างน้ำเน่านิยายไปสักหน่อย แต่ก็มีการตีความถ่ายทอดออกมาในหนังด้วยรูปแบบที่กลมกล่อมกำลังพอ ด้วยปัจจัยของคนเหงา 2 คนบนรถไฟตู้นอนเดียวกัน เป็นการตีโจทย์เล็กๆ ที่ตีแผ่ออกมาได้ค่อนข้างลึกซึ้งกินใจ และยังแฝงไปด้วยอินเนอร์ของตัวเองที่ปล่อยให้คนดูไปคิดต่อยอดได้อีกเล็กน้อยด้วย
ก็นับได้ว่า Compartment No.6 ละลายหัวใจ ที่ปลายโลก เป็นหนังรักที่มาช่วยยกระดับหนังโรแมนติกอีกเรื่อง แม้ว่าจะไม่ค่อยสร้างความแปลกใหม่ยังไม่ได้มากนัก แต่หลายๆ องค์ประกอบในการสร้างก็ต้องยกนิ้วให้ โดยเฉพาะเลโคชั่นต่างๆ ที่น่าตื่นตา การบุกไปยังเมืองหนาวเหน็บ เมอร์มันส์ค เพื่อให้ได้มาซึ่งฉากงามๆ สมกับท้องเรื่อง นี่ก็น่าจะกลายเป็นหนังรักในดวงใจของหลายๆ คน แบบไม่รู้เนื้อไม่รู้ตัวเหมือนกัน