เลขดี

พี่นาค 3

พี่นาค 3

ได้ชื่อว่าเป็นแฟรนไชส์หนังผีที่ประสบความสำเร็จที่สุดแห่งทศวรรษนี้ไปแล้ว กับจักรวาลหนังชุดพี่นาค แห่ง ไฟว์สตาร์ โปรดักชั่น ที่ยังคงสร้างภาคใหม่ๆ ออกมาเสิร์ฟอย่างต่อเนื่องแบบแรงไม่ตก และล่าสุดก็ถึงคราวของ “พี่นาค 3” ที่เป็นการกลับมาสานต่อฉบับไตรภาคให้สมบูรณ์แบบ แม้ว่าผลลัพธ์ที่ออกมานั้นจะค่อนข้างรู้สึกฝืนอารมณ์มากขึ้นๆ ทุกภาคก็ตาม แต่กระนั้นหนังก็ยังงัดใช้สูตรสำเร็จเดิมๆ ของหนังผีไทยที่ใครเลือกใช้ไม้ตายนี้…ก็ยังเอาตัวรอดได้อยู่ดี

พี่นาค3 เป็นเรื่องราวของ อ๊อด ที่กำลังจะเตรียมตัวเข้าพิธีบวชในเร็วๆ วันนี้ เมื่อใกล้ฤกษ์งามยามดี บอลลูน, เฟิร์ส และ โทมินจุน ได้มุ่งหน้าไปยังวัด เพื่อจะร่วมพิธีบวชของอ๊อด แต่กลับพบว่าเขากำลังป่วยหนักเพราะต้องคำสาปจากอาถรรพ์ของกำไล ที่เขาได้ขุดพบเจอโดยบังเอิญ และทำให้ดวงวิญญาณอาฆาตแค้นของ นาคคำ จากในอดีตชาติ ได้ปรากฏกายจองเวรเขากับเพื่อนๆ ที่ต้องแข่งกับเวลาเพื่อไขปริศนาและหาวิธีล้างคำสาปนี้ให้สิ้นซาก ก่อนที่ทุกอย่างจะสายจนเกินไป

แน่นอนว่า พี่นาค3 ก็มาพร้อมกับสูตรสำเร็จเดิมๆ ที่ตายตัวตั้งแต่นาทีแรกไปจนนาทีสุดท้าย ถ้าจะให้พูดตรงๆ ก็คือ หนังแทบหาความแปลกใหม่และน่าสนใจไม่ได้เลย ยังคงย้ำๆ วนๆ อยู่กับสูตรวิ่งหนีผีที่แสนจะจำเจ อีกนิดเดียวก็จะกลายเป็นแบบฉบับตำนานหนังบ้านผีปอบไปแล้วเชียว แต่ในสูตรสำเร็จของหนังที่ยังหยิบมาใช้นั้น ก็ยังถือว่าเป็นองค์ประกอบที่ช่วยส่งเสริมตัวหนังไปในตัวได้อีกอยู่ดี และในท้ายที่สุด พี่นาค3 ก็ยังคงเป็นหนังผีแบบไทยๆ ที่ดูได้เพลินๆ ไม่ต้องคิดอะไร เป็นความซ้ำซากที่สร้างบันเทิงได้ในระดับหนึ่ง

พี่นาค 3

“ไมค์-ภณธฤต โชติกฤษฎาโสภณ” ยังคงกลับมารับหน้าที่สานต่อหนังเรื่องนี้อีกเช่นเคย และเขาก็ได้ผลิตหนังไตรภาคแรกของตัวเองได้สำเร็จ แต่ก็นั้นแหละ…ด้วยความที่เขาถนัดในงานกำกับหนังผีโดยเฉพาะ ตั้งแต่ผลงานแจ้งเกิดมาถึงปัจจุบัน เขาแทบจะไม่เคยฉีกตัวเองออกไปจับหนังแนวอื่นๆ เลย ก็เลยกลายเป็นว่ามุมมองและองค์ประกอบหลายอย่างที่เขานำมาใส่ในหนังภาคนี้นั้น ก็ยังวนลูปเดิมๆ ไปมา และยิ่งกลายเป็นสูตรสำเร็จเดิมที่กำลังจะไม่เวิร์กกับตัวหนังสักเท่าไหร่แล้ว

หากว่าเปรียบเทียบกับหนัง 2 ภาคก่อนหน้านี้ ก็คงต้องบอกว่าแฟรนไชส์พี่นาคกำลังเดินไปเรื่อยๆ ในลักษณะกราฟลงเนิน ความพีคและสดใหม่ไปอัดเอาไว้อยู่ในภาคแรก ในขณะที่ภาค 2 เป็นการเติมเต็มความสะใจและยังมีจังหวะการเล่าเรื่องที่พอหอมปากหอมคอ แต่มาในภาคล่าสุดนี้ทุกอย่างเริ่มดูฝืนๆ อย่างเห็นได้ชัด การเล่าเรื่องเริ่มไม่ค่อยสมูท มีรสชาติประหลาดๆ แม้การตัดต่อและลำดับเรื่องจะยังค่อนข้างใช้ได้ แต่เริ่มสัมผัสได้ถึงองค์ประกอบของการจับแปะไม่ละเอียดตามสไตล์หนังไทยลวกๆ

แน่นอนว่า พี่นาค3 ก็ยังคงเป็นสยองขวัญที่แฝงไปด้วยตลก ที่มุกขบขันบางอย่างก็ยังทำหน้าที่ส่งต่อผู้ชมได้เป็นอย่างดีอยู่ แต่บอกเลยว่าปริมาณลดน้อยลงไปอย่างเห็นได้ชัด แต่กลายมาเป็นหนังที่ดูแล้วค่อนข้างรำคาญในพฤติกรรมไร้กาลเทศะของตัวละครเสียเอง สุดท้ายอาจจะกำลังเจริญรอยตามความสำเร็จในรูปแบบเดียวกับ ‘หอแต๋วแตก’ จักรวาลหนังไทยชื่อดังอีกเรื่องหรือไม่ อันนี้ก็ไม่ทราบ

“เอม วิทวัส” กับ “เจมส์ ภูริพรรธน์” ถูกยกให้เป็นผู้เล่นหลักในหนังภาคนี้ ที่พวกเขาก็ยังคงส่งต่อบทและสื่อสารกันในหนังได้อย่างรื่นไหลและเหมาะเจาะกันดี เพียงแต่ว่ามิติของคาแรกเตอร์ของพวกเขาทั้งสองที่ถูกสร้างออกมา ดูจะไร้กาลเทศะและกลายเป็นกะเทยขี้บ่นขี้วีนมากไปสักหน่อย มุกตลกที่พวกเขาหยิบมาใช้ยังเวิร์กอยู่บ้าง แต่น่าเสียดายที่ในภาคนี้พวกเขาทั้งคู่ถูกเมินในการขยายอารมณ์และความรู้สึกในแบบที่ภาคก่อนเคยทำเอาไว้

พี่นาค 3

เช่นเดียวกับ “มีน พีรวิชญ์”, “คิวเท ซิม”, “ปอนด์ คุณพัทธ์” และ “ต้า อธิวัตน์” ที่ส่วนใหญ่พวกเขาเป็นนักแสดงออริจินัลตั้งแต่ในภาคแรก มาในภาคนี้กำลังย่ำอยู่กับที่ แม้ว่าจะเห็นความพยายามในการสร้างมิติให้กับคาแรกเตอร์ต่างๆ แต่ก็ยังไม่ได้ถึงจุดที่ต้องการ โดยเฉพาะ “แชมป์ ชนาธิป” ที่มารับบทหนักเป็น ผีพี่นาค ในภาคนี้ ปูพื้นเพมาค่อนข้างดี แต่กลับใช้เข้ามาเป็นเพียงองค์ประกอบเสริม ที่แทบจะไม่ให้น้ำหนักและแอร์ไทม์กับเขาสักเท่าไหร่เลย

ท่ามกลางความฝืนในการเล่าเรื่องของหนังภาคนี้นั้น การวิ่งหนีผีก็ยังเป็นสูตรสำเร็จที่พอขายได้ แต่สิ่งที่ พี่นาค3 ทำได้โดดเด่นขึ้นมาแบบเห็นได้ชัดก็คือ ความทะเยอทะยานและความกล้าในการฉีกทิศทางที่เกือบจะออกไปทางสุดโต่งด้วยซ้ำ ด้วยการจับเอาตำนานพญานาคและสอดแทรกหลักคำสอนทางพระพุทธศาสนาเอาไว้แน่นกว่าภาคก่อนๆ นับว่าเป็นองค์ประกอบที่ค่อนข้างใช้ได้ ขณะที่ซีจีงานออกแบบพญานาคของพวกเขานั้น ก็ถือว่าสมศักดิ์ศรีได้ดี และอีกองค์ประกอบที่ต้องยกนิ้วให้เลยก็คือเทคนิคการแต่งหน้ายังเทพเหมือนเดิม

เอาเป็นว่าในภาพรวมแล้ว พี่นาค3 ก็ยังคงเป็นหนังผีตลกแบบไทยๆ ที่ยังไงก็ขายความบันเทิงให้กับคนดูได้เช่นเดิม เพียงแต่จังหวะและองค์ประกอบหลายๆ จุดในภาคนี้ดูเหมือนจะฝืนใจและยังไม่ค่อยมีอะไรที่ให้น่าจดใจได้เทียบเท่ากับภาคก่อนหน้านี้เท่าไหร่ การแสดงของทีมก็ตามมาตรฐาน ไม่ได้ดีแต่ก็ไม่ได้ย่ำแย่ ก็ยังคงเป็นหนังชุดสูตรเดิมๆ ที่น่าจะทำให้แฟนๆ รู้สึกประทับใจและเอ็นจอยกันต่อไปเรื่อยๆ หากว่ายังมีต่อในอีกไตรภาคต่อไป

ตัวอย่างหนัง พี่นาค 3

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *