Black Crab
Black Crab
มาถึงคิวของหนังแอคชั่นระทึกขวัญกลางภัยสงคราม ผลงานล่าสุดจากสัญชาติสวีเดน ที่แน่นอนว่าเห็นแม่สาวนักสู้ “นูมิ ราเพซ” ก็คือสัญลักษณ์ของความมันส์ นี่คือ “Black Crab” หนังที่ดัดแปลงสร้างมาจากนวนิยายขายดีของท้องถิ่น ที่นำมาปูพรมเป็นหนังภารกิจลับทางการทหาร ท่ามกลางอุณหภูมิสภาพอากาศที่หนาวติดลบ แม้ว่าหนังจะยังมีองค์ประกอบบางส่วนที่ขาดๆ เกินๆ กระจายไปอยู่ทั้งเรื่องก็ตาม
Black Crab เป็นเรื่องราวในโลกหลังหายนะที่ถูกทำลายด้วยสงคราม ท่ามกลางฤดูหนาวอันยาวนานและโหดร้าย ทหาร 6 นายเริ่มปฏิบัติภารกิจลับทั่วหมู่เกาะน้ำแข็ง และเสี่ยงชีวิตเพื่อขนส่งพัสดุลึกลับที่อาจช่วยยุติสงคราม และเมื่อเข้าไปในดินแดนของศัตรู ก็ไม่อาจรู้ได้ว่ามีอันตรายอะไรรออยู่ข้างหน้า และหากมีใครอยู่ที่นั่น ก็ไม่รู้ว่าจะไว้ใจได้หรือไม่ แต่สำหรับนักสเก็ตน้ำแข็งที่ผันตัวมาเป็นทหารอย่าง คาโรลิน เอียดห์ ภารกิจนี้กลับกลายเป็นเรื่องอื่นที่ไม่เกี่ยวกับภารกิจจริงเลย
หนังเป็นผลงานการกำกับและดัดแปลงเขียนบทโดย “อดัม เบิร์จ” ที่นับว่าเป็นผลงานการสร้างหนังใหญ่เรื่องแรกของเขา หลังจากที่สั่งสมประสบการณ์จากการกำกับหนังสั้นและมิวสิควิดีโอที่สวีเดนหลายชิ้นงาน หนังได้แรงบันดาลใจมาจากนิยายของ “ยาเกอร์ วืดโบร์ก” ที่นับว่าเป็นงานเขียนชิ้นมาสเตอร์พีชของเขา ที่ต้องยอมรับว่าคอนเซ็ปต์อะไรต่างๆ ค่อนข้างน่าสนใจ เพียงแต่ในการลงรายละเอียดต่างๆ ในหนังนั้น ยังไม่สามารถขยายเรื่องราวได้ไม่ดีพอและกลายเป็นความไม่หนักพอ
แน่นอนว่า Black Crab ก็คือหนังภารกิจลับทางการทหารที่เต็มไปด้วยสูตรสำเร็จเดิมๆ หนังเหมือนจะฟอร์มใหญ่ แต่เมื่อพิจารณาดูดีๆ ก็ไม่ใหญ่สักเท่าไหร่ เพราโฟกัสหลักๆ ที่กลุ่มทหารในภารกิจกับสถานการณ์ต่างๆ ของพวกเขาเพียงเท่านั้น ที่ช่วยเพิ่มความกดดันภายใต้เหตุการณ์ต่างๆ ได้ดี กลายเป็นการที่น่าติดตามและคอยลุ้นระทึกได้เรื่อยๆ ตลอดทั้งเรื่อง แต่น่าเสียดายที่มันยังไม่ได้สร้างแรงจูงใจและความสนใจเพียงพอ
นูมิ ราเพซ ก็คือสามารถเป็นตัวละครนำที่แบกรับหนังทั้งเรื่องเอาไว้ได้ด้วยดี โดยมีนักแสดงสมทบคนอื่นๆ มาช่วยประคองกันเอาไว้ การแสดงของเธอก็ไม่ได้มอบสิ่งแปลกใหม่อะไรให้สักเท่าไหร่ เพราะเราก็น่าจะเคยเห็นคาแรกเตอร์ที่เธอเคยได้รับบทแบบนี้มาแล้วในหนังเรื่องก่อนๆ ของเธอ ใส่ความเป็นแม่เข้ามาให้ดูหนักแน่น แต่เธอก็พยายามที่จะสร้างมิติเด่นๆ ออกมาในตัวละครของเธอ แม้ว่าจะเป็นมิติที่เบาบางแต่ก็ช่วยยกระดับขึ้นได้ดีอีกนิดหน่อย
การเล่าเรื่องของ Blakc Crab อาจจะยังไม่สามารถทำให้ตัวหนังดูน่าสนใจขึ้นสักเท่าไหร่ หนังอาจจะตัดต่อสลับภาพไปมาระหว่างอดีตกับปัจจุบันในบางช่วง ไว้เป็นเบาะแสที่ค่อยๆ เปิดเผยมาทีลนิด แต่ต้องยกนิ้วให้กับไอเดียการใช้ไอซ์สเก็ตซ์เข้ามาเป็นการเดินทางในภารกิจหลักของหนัง ถือว่าเป็นแนวคิดที่ค่อนข้างน่าสนใจและแปลกใหม่ดี และทำให้ตัวหนังมีความน่าตื่นเต้นและเร้าใจยิ่งขึ้น ท่ามกลางความสิ้นหวังของตัวละครที่แทบจะไม่มีความหวังใดๆ เลย
สรุปในภาพรวมแล้ววนั้น Black Crab ก็เป็นเพียงหนังที่มีบรรยากาศและโทนที่ค่อนข้างเหมาะสมกับเนื้อหาดี เพียงแต่ว่ายังขาดหลายองค์ประกอบเยอะไปหมด โดยเฉพาะที่มาที่ไปของเนื้อหาที่แทบจะไม่ได้ป้อนข้อมูลที่เป็นประโยชน์ให้กับผู้ชมเลยแม้แต่น้อย มีเพียงให้โฟกัสจดจ่ออยู่กับภารกิจธรรมดาๆ ที่เหมือนจะจริงจังแต่ก็ไม่ได้จริงใจอะไรสักเท่าไหร่
แต่ก็ต้องขอชื่นชม นูมิ ราเพซ ที่สามารถประคองหนังทั้งเรื่องเอาไว้ได้ดี และเธอก็คือไฮไลต์เด่นของนั้น แม้ว่าในท้ายที่สุดแล้ว Black Crab ก็วนลูปอยู่กับสูตรสำเร็จซ้ำซากเดิมๆ ที่ทิ้งทวนเอาไว้กับสิ่งที่ไม่ได้รู้สึกน่าจดจำอะไร โดยเฉพาะช่วงท้ายเรื่องที่ค่อนข้างซ้ำซากเต็มไปหมด เป็นหนังที่มีฉากจบไม่สตรองเทียบเท่ากับฉากเปิดที่ทำเอาไว้ได้ค่อนข้างหนักแน่นประทับใจกว่า ก็เป็นหนังที่ดูได้พอประวิงเวลา ไม่มีอะไรให้น่าชวนกลับมาเก็บรายละเอียดอีก เพราะหนังแทบไม่ได้ทิ้งเบาะแสอะไรเอาไว้ให้เลย…