บักแตงโม
บักแตงโม
มาถึงทิ้งทวนกับโปรแกรมหนังไทย ที่หลังจากลงคิวฉายต่อเนื่องกันแบบสัปดาห์ต่อสัปดาห์ตั้งแต่เดือนมีนาคมที่ผ่านมา “บักแตงโม” ก็จะถือได้ว่าเป็นหนังทิ้งทายกับหนังไทยมาราธอนเซ็ตนี้ ก่อนจะต้องเปิดทางให้กับเหล่าหนังฮอลลิวูดฟอร์มยักษ์ได้มีซีนกัน และนี่คือหนังตลกสไตล์ไทยพื้นบ้านที่คอหนังแนวนี้คุ้นเคยกันดี กับลายเส้นเด่นชัดจาก พระนครฟิลม์ ที่สำคัญเรื่องนี้ยังเป็นการผลงานการแสดงชิ้นสุดท้ายของ 2 ดาวตลกผู้ล่วงลับที่ทิ้งทวนเอาไว้อีกด้วย
บักแตงโมเป็นเรื่องราวของ “โทนี่” ทายาทมหาเศรษฐี หนุ่มนักเรียนนอกที่ต้องมาดูแลธุรกิจของพ่อ ซึ่งตอนนี้มี “ลุงอำนาจ” ดูแลธุรกิจแทนพ่อและหวังจะฮุบสมบัติ แต่โชคชะตาเล่นตลกทำให้โทนี่โดนตามฆ่าจนเขาต้องหนีตายแบบไม่คิดชีวิต
โทนี่หลบการตามล่าโดยปลอมเป็นบักแตงโม ลูกจ้างในร้านอาหารของ “แม่ดาว” ซึ่งมี “เดือน” ลูกสาวสุดรักสุดหวง โทนี่หลงรักเดือนทันทีที่ได้เห็น แต่ความรักของบักแตงโมก็ดูจะไม่ง่าย เพราะไม่ได้มีแค่แม่ดาวว่าที่แม่ยายที่แสนโหดเป็นอุปสรรคใหญ่ แต่ยังมีศัตรูหัวใจของโทนี่ อย่าง “มิกซ์” เจ้าถิ่นบ้านรวยเพื่อนสนิทที่คิดกับเดือนมากกว่าคำว่าเพื่อน
แม้แม่ดาวจะใช้งานหนักแค่ไหนบักแตงโมก็ไม่เคยหวั่น ขอแค่ทุกวันได้ใกล้ชิดกับเดือน บักแตงโมได้รู้ว่าที่สองแม่ลูกต้องทำงานหนักก็เพื่อหาเงินมาปลดหนี้กับ “มาดามโซเฟีย” ให้ได้ก่อนร้านที่เป็นสมบัติชิ้นเดียวที่พ่อทิ้งให้ให้สองคนแม่ลูกจะโดนยึด
ในระหว่างที่โทนี่หลบซ่อนตัวเป็นบักแตงโม โทนี่ได้รับความช่วยเหลือลับๆ จาก “ปีแอร์” ลูกน้องเก่าของพ่อ และ จ่าแรมโบ้” คู่ซี้เก่าของปีแอร์ โทนี่เร่งหาทางวางแผนทวงคืนสมบัติทุกอย่างของพ่อจากลุงให้ได้โดยเร็ว เพื่อที่จะโทนี่จะได้กลับมาช่วยเหลือครอบครัวของเดือน รักแท้ของบักแตงโม จะผ่านบททดสอบครั้งสำคัญได้หรือไม่? แม่ดาวจะได้ร้านมาเป็นของตัวเองมั้ย? และบักแตงโมจะได้กลับมาสืบทอดมรดกหรือเปล่า?
หนังเรื่องนี้ได้ “เอิร์น-ฐิติพงศ์ ใช้สติ” ผู้กำกับที่เคยลับฝีมือมาจากเรื่อง นะโม OK มาทำหน้าที่กำกับและร่วมเขียนบทหนัง แต่องค์ประกอบต่าง ๆ นั้น ก็ไม่ได้พึงพาความทะเยอทะยานอะไรสักเท่าไหร่ เพราะโดยภาพรวมนั้น บักแตงโมแทบจะไม่มีแก่นสารใด ๆ มาประดับอยู่แล้ว นอกจากฉากปะติดปะต่อ ยิงมุกตลก ทั้งเซ็ตขึ้นและด้นสดตามพรสวรรค์ของนักแสดง เส้นเรื่องมีอยู่เพียงนิดเดียว และยังเป็นพล็อตที่ง่ายเกือบจะจืดสนิทไปซะแล้ว
แต่ก็นับว่าดีที่หนังเรื่องนี้ได้ทีมนักแสดงชุดใหญ่มาช่วยประคับประคองและปรุงรสชาติให้ไม่กลายเป็นแกงจืดที่พยายามใส่เครื่องปรุง และนี่ก็น่าจะเป็นองค์ประกอบโดดเด่นเพียงอย่างเดียวที่มองเห็นในหนังเรื่องนี้ “ก้อง ห้วยไร่”
ก็มารับบทในครอบของ ก้อง ห้วยไร่ ไม่ได้ปรับเปลี่ยนหรือประดิษฐ์การแสดงใด ๆ เขาก็ยังแสดงเป็นตัวเองและใส่ความเป็นธรรมชาติของตัวเองตลอดทั้งเรื่อง ในขณะที่ “ฟิฟิล์ม-สิริอมร อ่อนคูณ” ที่คราวนี้ออกจากจักรวาลไทบ้านชั่วคราว มาเล่นหนังอีสานเรื่องอื่นดูบ้าง ก็ยังติดตามลักษณ์เดิม ๆ แต่เสน่ห์ของเธอ ก็ยังช่วยผลักดันหนังเรื่องนี้ให้ขับเคลื่อนไปได้ดีเช่นกัน
ทางด้านนักแสดงสมทบคนอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็น “ตั๊ก ศิริพร”, “สุนารี ราชสีมา” หรือ “ฮาย อาภาพร” ทั้ง 3 หญิงผู้นี้ ถือว่ารู้หน้าที่และรู้จังหวะของตัวเองที่จะหยอดใส่เข้ามาในหนังเรื่องนี้ แม้ว่ามุกที่พวกเธองัดออกมาใช้ในหนังเรื่องนี้ จะสามารถหาดูตามรายการโทรทัศน์ของพวกเธอได้ก็ตาม
ขณะที่ “ตาต้า ชาติชาย” ที่ตอนเล่นหนังไทบ้านก็ถือว่าเป็นนักแสดงไทบ้านที่มีฝีมืออยู่แล้ว พอมาเล่นเรื่องนี้ก็ถือว่าได้ขัดเกลาศักยภาพของเขาไปอีกทาง แม้บทบาทที่ได้รับจะไม่มีมิติใด ๆ เลย แต่เขาสามารถเล่นบทนี้ออกมาได้น่าสงสารและหมั่นไส้ในเวลาเดียวกัน
และแน่นอนว่าไฮไลต์ของหนังเรื่องนี้ก็คงจะหนีไม่พ้น 2 ดาวตลกผู้ล่วงลับที่เป็นผลงานชิ้นสุดท้ายของพวกเขา “โรเบิร์ต สายควัน” ยังคงกลับมารับบทเดิม ๆ ที่เราคุ้นเคยกันดี บทตำรวจที่ดูยังไงก็ยังขัดแย้งกับภาพลักษณ์ของเขา และนั่นก็คือว่าเป็นเสน่ห์ที่เขาสามารถขับมันออกมาได้ แม้ว่าในหนังเรื่องนี้จะมีซีนของเขาออกมาได้ไม่ค่อยสะใจสักเท่าไหร่ใด แต่ก็ถือว่าเป็นผลงานชิ้นสุุดท้ายที่น่าประทับใจอยู่ไม่น้อย
แต่ตำแหน่ง MVP ของหนังเรื่องนี้ต้องยกให้กับ “น้าค่อม ชวนชื่น” และนี่คือศิลปินตลกที่เราคงต้องยกย่องให้เป็นตำนานตัวจริง เพราะรู้หรือไม่ว่า ทุกซีนที่มีน้าค่อมปรากฏออกมาในหนังเรื่องนี้ คือความบันเทิงและสามารถเรียกเสียงหัวเราะจากคนดูได้อย่างไม่ฝืน
เพราะพรสรรค์ในการใส่มุกตลกและจังหวะการตลกแบบเฉพาะของเขาเท่านั้น น้าค่อมสามารถปรุงแต่งมุกต่าง ๆ ออกมาได้แบบไม่ต้องพยายามทำให้ตลก แต่มันสามารถตลกได้ตัวของมันเอง และนี่ก็กลายเป็นผลงานชิ้นสุดท้ายของน้า…ที่คนดูจะต้องจดจำเช่นเดียวกัน
แม้ว่าบักแตงโม จะดูไม่ต่างไปจากหนังตลกไทยแบบเดิม ๆ ที่มักจะหยิบเอามุกหยาบ ๆ มุกเหยียด ๆ กับเรื่องใต้สะดือมาทำใหชวนโจ๊ก แต่ก็ยังถือว่าเป็นหนังตลกที่ไม่ได้ลามปามและเกินขอบเขตมากเกิน พล็อตเรื่องและโครงสร้างอาจจะมีแค่หยิบมือ
หนังมีออกน้ำหลุดทะเลไปบ้างในบางจังหวะ มีบางช่วงที่น่าเบื่อ บางส่วนที่ขำขัน แต่สุดท้ายแล้วบักแตงโม ก็สามารถดึงตัวเองให้กลับมาสู่เส้นเรื่องของตัวเองและไปได้ตลอดลอดฝั่งได้ถึงตอนจบ แม้จะเสียดายว่าหนังขาดความสดใหม่ไปค่อนข้างมาก เพราะหวังจะทำหนังออกมาคลอกับเพลงดัง แต่เพลงดังกล่าวก็ผ่านความนิยมไป 2-3 ปีได้แล้ว
โดยภาพรวมนั้นบักแตงโม ยังไม่ใช่หนังตลกที่ดีอะไร หนังยังไร้มิติและแก่นสาร แต่ก็ดูแล้วย่อยง่ายเหมือนกันนั่งบริโภคคอนเทนท์อยู่หน้าจอทีวีที่บ้านตอนวันหยุด มันเกือบจะเป็นหนังที่ไม่มีอะไรให้น่าจดใจแล้ว เพียงแต่ความโดดเด่นของนักแสดงตลกทั้ง 2 ท่าน น้าค่อม กับ โรเบิร์ต กลายเป็นจุดดึงดูดที่ทำให้เราซึบซัมไปกับการโลดแล่นบนจอเป็นครั้งสุดท้ายของพวกเขา และพวกเขาก็ถ่ายทอดออกมาได้ดีและเปี่ยมไปด้วยเสน่ห์ คิดว่านี่น่าจะถูกใจคอหนังไทย แต่หากจะเอาสาระใด ๆ อย่ามาหาจากหนังเรื่องนี้