Pig หมูข้าหาย กับความหมายของชีวิต
Pig หมูข้าหาย กับความหมายของชีวิต
ประเดิมเริ่มปีใหม่มาพร้อมกับผลงานที่เหมือนเป็นการล้างตาเบาๆ ของคุณป๋าขวัญใจคนไทยที่รู้จักกันดี “นิโคลัส เคจ” ที่เรามักจะเห็นแกเล่นหนังอะไรก็ได้ แบบขอแค่ได้เล่นและได้ค่าจ้างก็เป็นพอ แต่ในครั้งนี้กลายเป็นการยกระดับที่น่าสนใจของป๋า
เพราะการตัดสินใจมาเล่นหนังดราม่าเล็กๆ ที่ไม่ธรรมดาอย่าง “Pig” (หมูข้าหาย กับความหมายของชีวิต) กลายเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่เกินความคาดหมายมากๆ และทำให้ป๋ามีโอกาสได้เฉียดเข้าใกล้เวทีรางวัลได้เสียด้วย
Pig หมูข้าหาย กับความหมายของชีวิต เล่าเรื่องราวของ ร็อบ ชายสูงวัยที่ใช้ชีวิตอย่างสันโดษไร้การสื่อสารกับโลกภายนอกในกระท่อมกลางป่าในรัฐโอเรกอนและเลี้ยงชีพด้วยการหาเห็ดทรัฟเฟิล โดยใช้หมูสัตว์เลี้ยงที่ถูกฝึกมาเพื่อให้ดมกลิ่นเห็ดทรัฟเฟิลโดยเฉพาะ
แต่แล้ววันดีคืนดี ร็อบถูกกลุ่มคนลึกลับบุกเข้ามารุมทำร้ายและยังโดนขโมยหมูแสนรักที่เป็นสิ่งล้ำค่าเดียวในชีวิตไป เขาจึงไม่รีรอที่จะจัดการแก้แค้นเพื่อทวงสิทธิของเจ้าหมูให้กลับคืนสู่อ้อมอก ท่ามกลางความยากลำบากและไม่สามารถที่จะคาดเดาอนาคตข้างหน้าได้เลยแม้แต่น้อย
ต้องบอกตรงๆ ก่อนเลยว่า Pig ไม่ใช่หนังในกระแสจ๋าๆ ที่เหมาะกับคนดูทั่วไป เพราะหนังที่เหมือนจะไม่มีแกนเรื่องหรือพล็อตใดๆ กับแค่ออกตามหาหมูหายไปแค่ไหน แต่กลายเป็นว่าในตัวหนังมีสัญญาณและบทพูดที่ชวนขบคิด พร้อมกับปล่อยให้ผู้ชมได้ตีความกับอารมณ์ ณ เวลานั้นของตัวละครในหลายๆ จุด จะบอกได้ว่าเป็นหนังที่มีลักษณะ ‘พูดน้อย…ต่อยหนัก” ดำเนินเรื่องไปแบบเรียบๆ เฉยๆ แต่สาดใส่คลื่นอารมณ์มาทีระลอกๆ เป็นจังหวะไปตลอดทั้งเรื่อง
เอาจริงๆ หนังเรื่องนี้ก็มีสไตล์และโครงคล้ายกับหนังแฟรนไชส์ดังอย่าง John Wick เพียงแต่เป็นโหมดที่ไร้อาวุธและกราดยิงแบบฉูดฉาด ปรับมาเป็นการตามหาของหายและสืบเสาะไปด้วยลำแข้งและคำพูดที่คมคายของคนที่เต็มไปประสบการณ์ชีวิตที่เลือกจะทิ้งอดีตเอาไว้แค่เบื้องหลัง จึงออกมาเป็นหนังดราม่าระทึกขวัญที่เต็มไปด้วยจังหวะที่ค่อยๆ บีบคั้นอารมณ์ผู้ชมขึ้นเรื่อยๆ ได้ทุกฉาก กับแง่คิดและมุมชีวิตผ่านตัวละครอย่างร็อบที่จะปล่อบให้คนดูได้คิดตามไปด้วยเสมอ
นิโคลัส เคจ แบกหนังเรื่องนี้เอาไว้สบายๆ และเขายังมอบการแสดงที่ทำให้เห็นถึงความเป็นมืออาชีพได้เป็นอย่างดี แม้ว่าช่วงหลังๆ จะค่อนข้างเป๋ไปทางเล่นหนังเกรดรองกับการแสดงเห่ยๆ มากกว่า แต่ Pig กลายเป็นชิ้นงานที่ทำให้กลับมายืนหยัดและลับคมสายดราม่าที่พิสูจน์ได้ว่ายังคงจัดจ้านอยู่ นั่นจึงเป็นอีกหนึ่งองค์ประกอบที่ทำให้รู้สึกโหมดนี้ของ นิโคลัส เคจ ที่ไม่ได้เห็นมานานเป็นสิบปีได้แล้ว กับหนังดราม่าเนื้อหาดีๆ ขายการแสดงเป็นชิ้นเป็นอัน คือจะให้เขาติดโผเข้าชิงรางวัลก็ไม่น่าเกลียดเลย
อย่างที่บอกไปแล้วว่า Pig มีพล็อตเรื่องที่แทบจะไม่มีอะไรเลย นอกจากการออกตามหาหมูที่หายไปของผู้ชายคนหนึ่ง แต่ระหว่างทางนั้น บทหนังได้สอดแทรกไดอะล็อกคำพูดและวลีโดนๆ ต่างเอาไว้มากมาย หนังที่แบ่งออกเป็นเหมือนมื้ออาหาร 3 มื้อหลักๆ ได้แฝงเอาไว้ด้วยข้อคิดและคติจากคำพูดของตัวละครอย่างร็อบออกมาเสมอๆ แม้ว่าเขาจะเป็นตัวละครลึกลับที่ไม่ค่อยพูดเยอะ แต่หากว่าเอ่ยปากพูดขึ้นมาแต่ละครั้ง คำพูดของเขามักจะซ่อนด้วยความหมายเสมอ และนั่นจึงทำให้เป็นหนังอีกเรื่องที่มีบทค่อนข้างคมคายมาก
สไตล์การเล่าเรื่องของ Pig ก็อาจจะราบเรียบไปสักหน่อย อาจคนดูที่ไม่ได้รู้สึกคล้อยตามก็น่าจะมีอาการง่วงซึมได้อยู่เช่นกัน แต่การถ่ายทอดก็ไม่ถึงกับน่าเบื่อไปเสียทีเดียว เพราะไดอะล็อกเด่นๆ ของหนังที่คอยซัดสาดเข้าใส่คนดูยังมีเป็นระลอกๆ จึงทำให้เวลาของหนังเพียงแค่ชั่วโมงครึ่งก็ถือว่าให้อรรถรสและความจริงใจในการเล่าเรื่องได้อย่างถ่องแท้ดี
โดยภาพรวมแล้วนั้น จะบอกได้ว่านี่เป็นผลงานการแสดงและหนังเรื่องที่ดีที่สุดในรอบทศวรรษของ นิโคลัส เคจ ก็คงจะไม่เกินจริง เป็นการหวนคืนฟอร์มของเขา และสร้างเซอร์ไพรส์ให้กับคนดูได้ไม่น้อย นอกจากการแสดงที่โดดเด่นของเขาแล้ว Pig ยังมีดีในด้านของบทภาพยนตร์ ที่พอจะมีโอกาสได้โลดแล่นเข้าชิงเวทีรางวัลต่างๆ ได้สบายเลย หนังเรื่องนี้อาจจะไม่ใช่หนังแนวมันส์สะใจแบบเดิมๆ ของป๋าเคจ แต่มันกลายเป็นหนังดราม่ารสเยี่ยมที่ลองปรับมาดูป๋ามุมนี้อีกครั้งในหายคิดถึง ก็ถือว่าป๋ายังทำได้ดีเหมือนเคย…