The Hypnosis สั่งจิตหลอน
The Hypnosis สั่งจิตหลอน
เป็นการเอ็กซ์คลูซีพฉายเฉพาะที่ทรูไอดีเท่านั้น กับหนังเขย่าขวัญสะท้านจิตจากเกาหลีใต้ อย่าง “The Hypnosis สั่งจิตหลอน” ที่มีมาพร้อมกับปมปริศนาซ่อนเงื่อน บนพื้นฐานการวังวนแห่งการสะกดจิตและดำดิ่งไปสู่ห้วงลึกของความลับที่ดำหม่น หนังแนวจิตวิทยาสยองขวัญที่ต้องมีกึ๋นเท่านั้นถึงจะทำออกมาแล้วรอด แต่ในเรื่องนี้ถือว่าบิวท์อารมณ์และโทนหนังได้หลอนจัดจ้าน เพียงแต่ยังมีหลายอย่างที่ยังไม่ค่อยน่าจดจำ
The Hypnosis สั่งจิตหลอนเป็นเรื่องราวของ โดฮยอน นักศึกษามหาวิทยาลัยผู้เคยสูญเสียความทรงจำในวัยเด็ก หลังจากประสบอุบัติเหตุ และ ฮยอนจุง ไอดอลสาวที่ถูกบูลลี่มาตลอด ด้วยความที่มีอะไรคล้าย ๆ กัน ทั้งสองเลยชวนกันไปเข้ารับการสะกดจิต
ที่ควบคุมโดย ศาสตราจารย์ชเว ผู้เชียวชาญเรื่องโรค PTSD แต่หลังจากการสะกดจิต กลับมีบางอย่างผิดปกติเกิดขึ้น เมื่อโดฮยอนเห็นภาพหลอนปริศนา และมันกลายเป็นต้นตอเรื่องราวเลวร้าย เขาจึงต้องค้นหาความจริงของภาพหลอนในครั้งนี้ โดยที่เขาไม่รู้เลยว่าสิ่งที่เขากำลังเผชิญมันคือเรื่องราวแห่งความตาย และความทรงจำที่เขาเห็นแท้จริงแล้ว มันคือความทรงจำของใครกันแน่
ต้องยอมรับว่า The Hypnosis สั่งจิตหลอนเป็นหนังที่มีความพยายามสร้างบรรยากาศและโทนหนังให้ออกมาชวนหลอนสะพรึงได้เป็นอย่างดี แม้ว่าจะยังสามารถหลอนได้มากกว่านี้อีก แต่เมื่อมีประเด็นเกี่ยวกับจิตวิทยาเข้ามาเป็นโครงเรื่องหลักของเรื่องแล้ว แน่นอนว่าผู้ชมจะต้องใช้สติในการรับชมอย่างสูง เพราะต้องมาแยกแยะว่า ตรงไหนเป็นเรื่องจริง ตรงไหนเป็นจินตนาการ
หนังเรื่องนี้จุดอ่อนโดยหลักก็น่าจะเป็นวิธีการเล่าเรื่องที่แทบจะไม่มีเสน่ห์เลย ในขณะที่บทหนังอาจจะไม่ได้เลวร้ายอะไรมากนัก แต่ก็ยังไม่ใช่บทหนังที่ดีอะไร เพราะหนังไม่สามารถสร้างความสดใหม่และดึงดูดความสนใจได้เท่าที่ควร การปูเรื่องของหนังที่ผ่านไป 40 นาที ก็ยังไม่สามารถสร้างแรงจูงใจให้ผู้ชมได้เท่าที่ควร ย่อมไม่ใช่สัญญาณที่ดีต่อหนังเลยโดยแท้ แต่กระนั้นในช่วงท้ายของหนังก็ถือว่ามีจังหวะที่ดีขึ้น ถึงจะเป็นจังหวะซ้ำ ๆ เดิม ๆ ที่เคยเห็นมาแล้วทั้งนั้น แต่ก็ช่วยบิวท์อารมณ์ความสนุกได้ดีขึ้น
The Hypnosis ก็เจอปัญหาเดิม ๆ ของหนังแนวนี้ คือถ้าไร้แนวคิดที่แปลกใหม่ในการมานำเสนอ หนังก็จะออกมารสชาติค่อนข้างจืดชืดและไร้ซึ่งความน่าจดจำใด ๆ และก็ใช่ที่หนังเรื่องนี้เป็นเช่นนั้น ทุก ๆ องค์ประกอบและไดอะล็อกของหนังนั้น เต็มไปด้วยความซ้ำซากจำเจ แทบจะเคยเห็นมาแล้วจากหนังเกาหลีเองหรือหนังฝรั่งแนวจิตวิทยา อีกทั้งหนังยังลืมใส่กึ๋นความเป็นจิตวิทยาที่ควรจะมีเข้าไปเสริมสร้างเหตุผลไปด้วย
สุดท้ายแล้ว The Hypnosis ก็กลายออกมาเป็นหนังเขย่าขวัญรูปแบบเดิม ๆ มีเหตุการณ์ในอดีตที่เป็นแรงจูงใจที่ทำให้เกิดเป็นผลกระทบในปัจจุบัน ตัดสลับซับซ้อนให้ดูมีอะไร แต่กลับไม่สามารถชวนดีงดูดใจผู้ชมได้เท่าที่ควร หนังพยายามซ่อนปริศนาเอาไว้เพื่อหักมุมในตอนท้าย แต่การเล่าเรื่องค่อนข้างล้มเหลว เพราะเอาเข้าจริง ๆ ผู้ชมก็น่าจะเดาทางออกได้ตั้งแต่ 20 นาทีของหนังแล้วด้วยซ้ำ
แต่ทั้งนี้ The Hypnosis ก็ถือว่าเป็นหนังที่สร้างโทนบรรยากาศความน่ากลัวและวังเวงได้ดี เล่นกับจิตใจสำนึกของมนุษย์ได้ค่อนข้างใช้ได้ เพียงแต่ยังบกพร่องในการใช้วิธีการเล่าเรื่องให้น่าสนใจได้ไม่ดีพอ การแสดงของทีมนักแสดงที่ส่วนใหญ่เป็นดาราหน้าใหม่และยังไม่ค่อยมีประสบการณ์เท่าไหร่ จะเห็นก็มีเพียง “อี เดวิด” ที่ช่วยประคองหนังทั้งเรื่องเอาไว้เพียงลำพัง และเขาก็เกือบจะพาหนังเรื่องนี้ไม่รอดแล้ว
เอาเป็นว่าโดยภาพรวม The Hypnosis สั่งจิตหลอนเป็นหนังเขย่าขวัญที่พยายามเล่นกับจิตใจมนุษย์ แต่ยังไม่สามารถตอบโจทย์ที่ต้องการออกมาได้ดีอย่างที่ควร หนังยังใช้วิธีการเล่าเรื่องที่ค่อนข้างอ่อนไปสักหน่อย บทหนังไม่แย่แต่ก็ไม่ดี การแสดงอยู่ในระดับที่พอรับได้ แต่เมื่อมองดูรวม ๆ แล้ว The Hypnosis ก็เป็นหนังที่ดูได้แค่ฆ่าเวลา เพราะเมื่อหนังจบลง เรากลับพบว่าแทบจะจำรายละเอียดเกี่ยวกับหนังที่ผ่านมาไม่ค่อยได้อย่างน่าเสียดาย…