The Rescue (2020) เดือดกู้ภัย พิทักษ์โลก
The Rescue (2020) เดือดกู้ภัย พิทักษ์โลก
มาถึงหนังสารคดีที่ต้องบอกว่า…คนไทยต้องได้ดูกับการตีแผ่เบื้องลึกเบื้องหลังเชิงปฏิบัติการช่วยเหลือทีมฟุตบอลหมูป่า อคาเดมี่ ทั้ง 12 คนกับโค้ช ออกมาจากถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน จ.เชียงราย และนี่คือ “The Rescue” หนังสารคดีที่พาไปอินไซด์คลุกวงในเกี่ยวกับแผนภารกิจกู้ภัยที่เริ่มต้นจากการร่วมมือกันของทีมนานาชาติ ที่นับว่าเป็นหนึ่งในเหตุการณ์ที่สร้างปรากฏการณ์การร่วมมือของคนทั้งโลกอย่างน่าทึ่ง
The Rescue เป็นสารคดีที่จะพาไปติดตามภารกิจกู้ภัยและช่วยเหลือ เด็กทั้ง 12 คนและโค้ชของพวกเขา ที่ติดอยู่ภายในถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน ในเดือนมิถุนายน-กรกฎาคม 2561 ที่ต้องแข่งขันกับเวลาเพื่อช่วยเหลือชีวิตพวกเขาให้ออกมาจากถ้ำได้อย่างปลอดภัย ท่ามกลางสถานการณ์ที่ไม่สามารถคาดเดาล่วงหน้าได้แม้สักนาทีเดียว และนี่คือการทำงานอย่างขึงขังมุ่งมั่นของพวกเขา
นี่เป็นผลงานของ 2 ผู้กำกับหนังสารคดีเจ้าของรางวัลออสการ์ “จิมมี ชิน” กับ “อลิซาเบธ ไช วาซาร์เฮลยิ” ที่นับว่าเป็นทิศทางที่ค่อนข้างเข้าทางของพวกเขาในระยะหนึ่ง แต่ในครั้งนี้โจทย์ของพวกเขาค่อนข้างท้าทายยิ่งขึ้น เพราะต้องแบกรับกับสถานการณ์และเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นจริง พวกเขาจึงได้ประมวลภาพฟุตเทจและสร้างงานโปรดักชั่นที่ยิ่งใหญ่สำหรับหนังสารคดีเรื่องนี้ออกมาด้วยการเล่าเรื่องที่สร้างแรงบันดาลใจให้คนทั้งโลก
The Rescue อาจจะคล้าย ๆ กับหนังเกี่ยวกับสารคดีภารกิจกู้ภัยที่ถ้ำหลวงเรื่องอื่น ๆ แต่แตกต่างไปด้วยข้อมูลเชิงลึกและการคลุกวงในที่เกี่ยวข้องกับปฏิบัติการในครั้งนี้ หนังพาเราไปเกาะติดอยู่กับมุมมองของนักประดำน้ำ ที่เป็นผู้เชี่ยวชาญและช่ำชองระดับโลก นำทีมโดย “ริค สแตนตัน”, “จอห์น โวลันเธน” และ “เวิร์น อันสเวิร์ธ” ที่นับว่าเป็นทีมนานาชาติชุดแรก ๆ ที่ลงพื้นที่และคลุกคลีเป็นอาสาสมัครช่วยค้นหาเด็ก ๆ ในภารกิจนี้
หนังเล่าเรื่องตั้งแต่จุดเริ่มต้นของเหตุการณ์ ก่อนจะค่อย ๆ ใส่ข้อมูลเชิงละเอียดเกี่ยวกับปฏิบัติการเข้าไปทีละน้อย พร้อมกับการปูพื้นเพและทำความรู้สึกกับบรรดานักประดาน้ำผู้เชี่ยวชาญที่เกี่ยวข้องกับภารกิจนี้ แต่ละบุคคล แต่ละฟุตเทจ ที่หนังได้หยิบมาใช้ประกอบนั้น กลายเป็นองค์ประกอบที่ช่วยส่งเสริมและสร้างความทรงพลังให้กับตัวหนังมากยิ่งขึ้น
ถึงแม้ว่าเราคนไทยจะสามารถถึงเหตุการณ์และไทม์ไลน์ของเหตุการณ์นี้กันค่อนข้างดีกว่าไหน ๆ แต่เมื่อได้ลองมาคลุกคลีกับการทำงานแบบอินไซด์ ขยายความการทำงานที่เรายังไม่เคยได้เห็นมุมมองนี้มาก่อน จะทำให้รู้สึกจับใจยิ่งเข้าไปอีก แม้ว่าโดยรวมแล้ว หนังก็เป็นเพียงสารคดีทั่ว ๆ ไป ที่เต็มไปด้วยแผนที่สำเร็จและแผนที่ล้มเหลว รวมทั้งอุปสรรคต่าง ๆ แต่การเล่าเรื่องและนำเสนอของหนังเรื่องนี้ถือว่าทำออกมาได้น่าสนใจและน่าติดตาม
The Rescue ทำให้ได้เราเห็นบุคคลต่าง ๆ ที่อยู่เบื้องหลังกับภารกิจกู้ภัยในครั้งนี้ ได้เห็นถึงความช่วยเหลือจากนานาชาติในมุมที่เราอาจจะไม่เคยรู้มาก่อน เห็นได้ถึงการวางแผนและแนวทางในเชิงปฏิบัติการที่เข้มข้น ทั้งเจ้าหน้าที่ฝั่งไทยและฝ่ายนานาชาติ อีกทั้งแน่นอนว่าต้องไม่ทิ้งความเป็นไทย ยังสอดแทรกแนวคิดและความเชื่อแบบท้องถิ่นเข้ามาเสริมเล็กน้อย ที่แน่นอนว่าเป็นอะไรที่ค่อนข้าง ‘ไร้สาระ’ ในสายตาชาวต่างชาติ
โดยในครึ่งแรกของหนังนั้น ให้ความรู้สึกลุ้นระทึกและแข่งขันกับเวลาในการค้นหาเด็ก ๆ ทีมฟุตบอล เหมือนกับเราได้เกาะหลังนักประดาน้ำเข้าไปสำรวจและค้นหาภายในถ้ำด้วย ในขณะที่ครึ่งหลังของหนัง ให้ความรู้สึกของความหวังที่ต้องแข่งกับเวลาเช่นเดียวกัน เพื่อหาแนวทางและหนทาง พาทีมฟุตบอลทั้ง 13 ชีวิตออกมาจากถ้ำได้อย่างปลอดภัย
เอาเป็นว่า The Rescue ถือว่าเป็นหนังสารคดีถ้ำหลวงที่ทำออกมาได้รสชาติกลมกล่อม และเป็นหนังที่คนไทยดูแล้วน่าจะคล้อยตามได้ไม่ยากเลย เพราะเป็นสถานการณ์ใกล้ตัวเราด้วย ต้องยกนิ้วให้กับโปรดักชั่นของหนัง และแนวทางการเล่าเรื่องที่ทำออกมาได้น่าสนใจในทุก ๆ ช่วงนาที พาไปสำรวจและให้ข้อมูลเชิงปฏิบัติการที่โลกสมควรจะรับรู้ออกมาตีแผ่ นี่อาจจะยังไม่ใช่หนังสารคดีที่สมบูรณ์แบบที่สุด แต่ภารกิจอันยิ่งใหญ่ครั้งนี้ก็ถือว่าทำให้คนทั้งโลกต้องจับจ้อง
โดยภาพรวมนั้น หนังสารคดี The Rescue ถ่ายทอดภารกิจถ้ำหลวงออกมาได้อย่างประทับใจ ทำให้ได้รู้จักตัวตนของบุคลากรคนสำคัญที่เกี่ยวข้องกับภารกิจครั้งนี้มากยิ่งขึ้น ได้คลุกเข้าไปวงในกับภารกิจครั้งนี้ด้วยข้อมูลเชิงข้อเท็จจริงมากยิ่งขึ้น ซ้ำยังได้เห็นฟุตเทจหลาย ๆ ภาพที่ยังไม่เคยปรากฏที่ไหนมาก่อน เป็นหนังสารคดีที่รู้สึกตื่นตาและเอาใจช่วยลุ้นไปตลอดทั้งเรื่อง กับภารกิจที่อันน่าทึ่งระดับโลกที่เคยเกิดขึ้นในครั้งนี้…