Deep Water ชู้ร้อนซ่อนลึก
Deep Water ชู้ร้อนซ่อนลึก
ได้เวลามารับชมความเข้มข้นสุดร้อนเร้าในชีวิตคู่ของผัวเมียคู่นี้ กับหนังดราม่าลึกลับสุดหวาบหวิวผสมแนวอีโรติก “Deep Water” (ชู้ร้อนซ่อนลึก) หนังที่ดัดแปลงสร้างมาจากนวนิยายทริลเลอร์ชื่อดัง และยังเป็นการคัมแบ็กในรอบเกือบ 20 ปีของผู้กำกับที่ได้ชื่อว่าเป็นเจ้าพ่อหนังอีโรติก แต่ดูเหมือนว่าสิ่งที่เขาเคยทำแล้วมันเวิร์กเมื่อวันวาน ดูเหมือนจะไม่ค่อยเวิร์กสักเท่าไหร่ในปัจจุบันวันนี้สักเท่าไหร่แล้ว
Deep Water ชู้ร้อนซ่อนลึกเป็นเรื่องราวของคู่รักในเมืองเล็กๆ หนึ่งในอเมริกา วิค กับ เมลินดา พวกเขาครองชีวิตคู่ที่ดูเหมือนจะปกติ แต่แท้ที่จริงแล้ว พวกเขาต่างเป็นเหมือนระเบิดเวลาที่รอคอยการปะทุจากแรงยั่วยุและกำลังมีปลายทางไปสู่เส้นทางการหย่าร้างกัน ก่อนที่ทั้งคู่ได้อนุญาตให้สร้างเกมประหลาดขึ้นมา ต่างฝ่ายต่างยินยอมที่จะให้เปิดใจรับเพื่อนใหม่ๆ เข้ามาในชีวิต และมันเป็นจุดเริ่มของการปั่นประมาทด้วยความเย้ายั่วและกำลังนำพวกเขาไปสู่เรื่องลับที่ดำหม่นที่ต้องคอยปกปิดเอาไว้
ตามที่เกริ่นไปว่าหนังเรื่องนี้เป็นผลงานการกำกับทำหนังอีกครั้งของผู้กำกับรุ่นใหญ่ “เอเดรียน ลิน” ที่ได้ชื่อว่าเป็นเจ้าพ่อหนังอีโรติกในยุคก่อน เพราะเขาคือผู้สร้างหนังปังๆ อย่าง Fatal Attraction หรือ Unfaithful แต่หลังจากที่เขาทิ้งหายไม่มีผลงานหนังเรื่องใหม่นานถึง 20 ปี ก็กลับมาอีกครั้งในหนังเรื่องนี้ ที่เป็นการหยิบเอานิยายขายดีของ “แพทริเซีย ไฮจ์สมิธ” มาดัดแปลงสร้าง แต่น่าเสียดายที่จังหวะและโทนต่างๆ ของหนังเรื่องนี้ ค่อนข้างเชยและดูล้าสมัยไปสักหน่อย ทำให้หนังเกือบ 2 ชั่วโมงแทบจะหาอะไรที่เป็นมุมมองใหม่ๆ ไม่ได้เลย
Deep Water ก็ถือได้ว่าแทบจะไม่ต่างไปจากผลงานก่อนๆ ของ เอเดรียน ลิน เลย เขายังคงหยิบเอาเทคนิคเก่าๆ ของตัวเองมาใส่เอาไว้ในหนังของตัวเอง โดยที่ลืมไปแล้วว่านี่มันปี 2022 แล้ว แต่หนังเรื่องนี้ยังคงวนเวียนไปกับการเล่าเรื่องที่ค่อนข้างพยายามไปเสียทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นมุมความสัมพันธ์และอารมณ์เย้ายวน 18+ ที่สอดแทรกเข้ามา ที่คงต้องบอกว่าแค่นี่ยังเด็กๆ เพราะผู้กำกับรายนี้เคยทำได้แซ่บกว่านี้มาแล้ว
บทหนังของ Deep Water คือจุดด้อยที่สุดของหนัง ที่พลอยทำให้ไม่สามารถขับพลังของหนังออกมาได้ถึงจุดไคลแม็กซ์ที่ควรจะเป็นได้สักที สุดท้ายจึงออกมาเป็นเพียงหนังที่เล่าถึงประเด็นชีวิตของคู่ผัวเมียที่ระหองระแหงเกือบจะถึงขีดสุด ยั่วอารมณ์และจุดเดือดของแต่ละฝ่ายไปเรื่อยๆ โดยที่ออกมาในลักษณะหญิงก็ร้ายชายก็เลว เป็นการออกแบบคาแรกเตอร์ตัวละครที่ไม่น่าเอาใจช่วยเลยสักตัวเดียว
แต่กระนั้นก็ต้องชื่มชมการทำหน้าที่ของ 2 นักแสดงนำ “เบน แอฟเฟล็ก” กับ “อนา เดอ อาร์มัส” ที่ทั้งคู่ถ่ายทอดออกมาได้ระดับมืออาชีพจริงๆ และอาจจะเป็นเพราะว่าอารมณ์ที่ทั้งคู่สามารถจูนติดและคอนเน็กกันได้ดี ซึ่งช่วงระหว่างที่ถ่ายทำหนังเรื่องนี้ทั้งคู่ก็ได้คบหาดูใจกันอยู่ด้วย จึงทำให้ลักษณะท่าทางและภาษาต่างๆ ที่ทั้งคู่พรั่งพรูออกมานั้น ดูเป็นธรรมชาติและเข้าถึงความเป็นคู่รักที่กำลังละเหี่ยใจกันได้จริงๆ เป็นการสร้างมิติให้กับตัวละครได้ดี แม้ว่าบทหนังจะค่อนข้างกู่ไม่กลับจริงๆ
ตามที่บอกไปแล้วว่า Deep Water เป็นหนังที่แทบจะมองหาความสดใหม่ไม่เจอเลยจริงๆ เพราะองค์ประกอบดูล้าสมัยไปทั้ง หนังไม่สามารถพาคนดูรู้สึกคล้อยตามไปกับอารมณ์หนังแม้แต่น้อย ฉากบางฉากที่ควรจะเข้มข้นและกัดกินใจผู้ชม แต่กลับไม่สามารถดึงจุดนั้นมาไม่ได้เลย รสชาติของหนังจึงเป็นเพียงอีโรติกแบบจืดชืด แทบจะไม่มีตรงไหนควรค่าแก่การจดจำเลยสักนิ คือมันเป็นหนังที่ดูผ่านแล้วก็ผ่านเลยไปเท่านั้น
หนังเรื่องนี้ถือว่าเป็นโครงการหนังเรื่องท้ายๆ ของอดีตค่ายหนังฟ็อกซ์ ก่อนจะมาควบรวบกิจการกับดิสนีย์ นั่นจึงเป็นบทสรุปที่ว่าหนังเกือบจะไม่ได้ฉาย เพราะหนังอีโรติกติดเรทกับแบรนด์ดิสนีย์ไม่ใช่สิ่งที่คู่กันอยู่แล้ว ดังนั้นพวกเขาจึงส่งหนังเรื่องลงฉายทางออนไลน์แทนเป็นทางออก และก็ถือว่าเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมดี เพราะถ้าหากหนังเรื่องนี้ลงโรงฉายตามปกติ ก็เหมือนจะเป็นหนังที่เลอะเทอะ ซ้ำร้ายยังคงคว่ำสนั่นบนบ็อกซ์ออฟฟิศด้วยซ้ำ
เอาเป็นว่าในภาพรวมแล้ว Deep Water เป็นหนังลึกลับอีโรติกที่ไม่ได้ทำให้คนดูรู้สึกหวาบหวิวตามได้สักเท่าไหร่ ประเด็นหลักของหนังน่าสนใจพอใช้ได้ แต่กลับนำเสนอออกมาได้ยังไม่น่าสนใจเพียงพอ กลายเป็นหนังที่รสชาติจืดสนิทตลอดเวลาเกือบ 2 ชั่วโมงของหนังเรื่องนี้ แต่ก็ยังดีที่มีนักแสดงมืออาชีพมารับมือกับบทบาทต่างๆ ทำให้ด้านการแสดงไม่น่าเป็นห่วง แต่ในท้ายที่สุดหนังก็ไม่มีให้น่าจดจำเลยสักนิดเดียว เครดิตขึ้นแล้วก็คือจบแล้วจบไปเลยจริงๆ