Ambulance ปล้นระห่ำ ฉุกเฉินระทึก
Ambulance ปล้นระห่ำ ฉุกเฉินระทึก
และนี่ก็คือการกลับมาอีกครั้งของเจ้าพ่อหนังแอคชั่นมันส์ระห่ำ “ไมเคิล เบย์” ที่คราวนี้ได้หยิบเอาหนังระทึกขวัญต้นฉบับจากเดนมาร์กมาปัดฝุ่นสร้างใหม่ด้วยงานสร้างระดับฮอลลิวูด กลายออกมาเป็น “Ambulance” (ปล้นระห่ำ ฉุกเฉินระทึก) หนังโจรกรรมไล่ล่าดุเดือดไปทั้งนครลอสแองเจลิส ที่ใส่ความมันส์ไม่ยั้งถึงคนดูแบบนาทีต่อนาที กลายเป็นความรู้สึกเหนื่อยกับการไล่ติดตาม ก่อนจะค่อยๆ รู้สึกเคลิ้บหลับไปเสียอย่างนั้น…ให้ตายเถอะ
Ambulance ปล้นระห่ำ ฉุกเฉินระทึกเล่าเรื่องราวของ วิล ชาร์ป ทหารผ่านศึกผู้ได้รับประดับเหรียญเกียรติยศ กำลังหมดหวังกับการหาเงินมาจ่ายค่ารักษาพยาบาลของภรรยา เขาจึงขอความช่วยเหลือจากบุคคลหนึ่งที่เขารู้จัก แต่เขาไม่ควรติดต่อ นั่นก็คือ แดนนี่ น้องชายบุญธรรมของเขา แดนนี่ คืออาชญากรอาชีพ ผู้มีเสน่ห์ดึงดูดใจ แต่แดนนี่กลับยื่นข้อเสนอ ให้มาร่วมปล้นธนาคารซึ่งนับว่าเป็นครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ลอสแองเจลิส ด้วยเดิมพัน 32 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ทำให้วิลไม่สามารถปฏิเสธได้ เพราะต้องช่วยภรรยาให้รอดชีวิต
แต่เมื่อการหลบหนีของพวกเขาเกิดผิดพลาด สองพี่น้องที่สิ้นหวังก็ได้จี้รถพยาบาล ที่มีตำรวจบาดเจ็บปางตายติดอยู่และ แคม ธอมสัน เจ้าหน้าที่หน่วยแพทย์ฉุกเฉิน กำลังทำหน้าที่ประจำการอยู่ ในการไล่ล่าด้วยความเร็วสูงที่ไม่เคยหยุดนิ่ง วิลและแดนนี่ต้องหลบเลี่ยงการตอบโต้ของหน่วยงานบังคับใช้กฎหมาย เพื่อรักษาตัวประกันให้รอดชีวิต และพยายามอย่าฆ่ากันเอง นี่คือปฏิบัติการการหลบหนีที่บ้าคลั่งที่สุดในลอสแองเจลิสเท่าที่เคยเห็นมา
โอเค! ไมเคิล เบย์ ก็คือ ไมเคิล เบย์ เอกลักษณ์ที่เป็นลายเส้นของเขาก็ยังคงถูกนำมาใส่แบบล้นๆ อยู่ในหนังเรื่องนี้เต็มไปหมด คุณจะสัมผัสได้ชัดๆ เลยว่านี่เป็นหนังของเบย์โดยแท้ ไม่ว่าจะเป็นไฮไลต์ที่เห็นแทบทุกเรื่อง อย่าง การจัดแสงแฟลร์, ภาพโคลสอัพนักแสดง และ มุมภาพหมุนๆ ไปมา ที่ในหนังเรื่องนี้ยิ่งหนักเข้าไปอีก เพราะอีตาเบย์เข้าเอากล้องโดรนมาช่วยในการสร้างสรรค์ภาพในฉากไล่ล่าระทึก ผลลัพธ์ที่ออกมาคือ…เกือบจะอ้วก ต้องแนะนำเลยว่า อย่าทานอะไรอิ่มก่อนจะเข้าไปดูหนังเรื่องนี้ และวิธีแก้ปัญหาเฉพาะหน้าก็คือ ให้เพ่งอ่านไปที่ซับไตเติ้ลสักชั่วครู่จะช่วยได้
แต่ก็นั้นแหละ เทคนิคงานสร้างในรูปแบบเดิมๆ ของไมเคิล เบย์ ที่แทบไม่มีอะไรใหม่เลยในหนังเรื่องนี้ นับว่าโชคดีที่โครงเรื่องของหนังเรื่องนี้ต้นฉบับวางเอาไว้ค่อนข้างหนักแน่น แม้ว่าส่วนตัวจะยังไม่เคยดูหนังเวอร์ชั่นเดนมาร์กก็ตาม แต่ก็เห็นได้ว่าโครงหลักๆ ของหนังเรื่องนี้มีหัวใจของเรื่องที่เด่นชัด แม้ว่าบทหนังที่ถูกนำมาดัดแปลงในครั้งนี้จะค่อนข้างเละเทะสะเปะสะปะอยู่มากก็ตาม แต่ก็ยังเป็นโครงเรื่องที่ช่วยพยุงอารมณ์ของหนังเอาไว้ตลอดทั้งเรื่อง
หนึ่งในปัญหาของหนังของลุงเบย์ ก็น่าจะเป็นความเยิ่นเย้อเกินจำเป็นของลุง ที่มักจะเห็นได้จากผลงานเก่าๆ ของลุง หนังเรื่องนี้ใส่มาแบบไม่ยั้ง 2 ชั่วโมงเศษๆ ทั้งที่ต้นฉบับของหนังเรื่องนี้มีความยาวแค่ 80 นาทีเท่านั้น การนำมาขยายความและขยายเรื่องราวในครั้งนี้ถือว่าเกินเบอร์ไปสักหน่อย เป็นจุดที่ฉุดหนังให้ออกนอกลู่นอกทางไปอยู่หลายรอบ โดยเฉพาะช่วงท้ายๆ ของเรื่อง ที่คนดูคอยลุ้นแบบไม่รู้จะลุ้นยังไงแล้ว ก็เริ่มรู้สึกเบื่อหน่ายและชวนคิดว่า…เมื่อไหร่จะจบ
Ambulance ทำการเปิดเรื่องมาในท่วงท่าที่เกือบจะไม่น่าสนใจ ปูเรื่องในช่วง 30 นาทีแบบเสียเวลาเกินไปสักหน่อย แต่เมื่อจุดเครื่องติดแล้ว ก็ต้องยอมรับว่าในอีกชั่วโมงยาวๆ ต่อมาของหนังก็ถือว่าลุ้นระทึกที่จัดเต็มและใส่ไม่ยั้งเช่นเดียวกัน แม้ว่าฉากไล่ล่าติดตามโจรอะไรแบบนี้ จะไม่ใช่ฉากใหม่ๆ ที่น่าตื่นตาอะไร แต่ด้วยจังหวะภาพและองค์ประกอบอื่นๆ ที่หนังใส่เข้ามาได้ค่อนข้างลงล็อกก็ถือว่าช่วยบิ้วท์อารมณ์ผู้ชมได้อยู่หมัดได้ดีระดับหนึ่ง
ส่วนทางด้านการแสดงที่้ต้องบอกว่าได้ดาราตัวท็อปๆ มาประดับเรื่องทั้งนั้น พวกเขาทุกคนถ่ายทอดบทบาทของตัวเองออกมาได้ดี หนังใช้งานพวกเขาได้อย่างคุ้มค่า แต่พลาดที่บทหนังนั้นลืมให้ความสำคัญในตัวละครนั้นๆ ค่อนข้างน้อยเกินไปสักหน่อย กลายเป็นว่าแต่ละคาแรกเตอร์ดำเนินไปแบบผิวเผิน ยังลงรายละเอียดของความคิดและอินเนอร์ของแต่ละตัวครได้ไม่ลึกซึ้งสักเท่าไหร่ และกลายเป็นว่าแต่ละบทไม่มีเป็นที่น่าจดจำเลย
“เจค จิลเลนฮาล” ก็คือมืออาชีพในหนังเรื่องนี้ แม้ว่าตัวบทของเขาจะค่อยข้างเห่ยไปสักหน่อย แต่บทน่าจะสามารถขยี้ให้ได้ยิ่งไปกว่านี้อีก แต่สุดท้ายเขาก็แค่มารับบทเป็นโจรเลวๆ ที่มีความผิดปกติทางตรรกะในบางช่วงเวลา ที่ก็แสดงๆ ไปแค่นั้น “ยาห์ยา อับดุล‑มาทีน ที่ 2” คนนี้ก็ต้องยกนิ้วให้ เพราะต้องแบกแกนความดราม่าของเรื่องเอาไว้ แม้ว่าบทของเขาจะตื้นเขินมากไปสักหน่อย และ “ไอซา กอนซาเลซ” เสน่ห์ของเธอไม่สามารถหลีกมองได้เลย เธอสวยจริงๆ แม้ว่าบทนี้จะไม่มีอะไรเลย แต่กลายเป็นว่าเธอคือองค์ประกอบนักแสดงที่ช่วยมาเติมเต็มได้ดี
เอาเป็นว่า Ambulance ปล้นระห่ำ ฉุกเฉินระทึกเป็นหนังที่ไม่ได้สร้างความผิดหวัง แต่ก็ยังไม่ได้น่าประทับใจอะไรขนาดนั้น เพราะเอาเข้าจริงๆ พอออกมาจากโรงหนังก็แทบจะไม่มีอะไรให้จดจำในหนังเรื่องนี้เลยด้วยซ้ำ ทุกอย่างเป็นสูตรสำเร็จ เป็นหนังบู๊สไตล์ไมเคิล เบย์ ทุกอนูผู้ชมจะคุ้นเคยเป็นอย่างดี บทหนังยังค่อนข้างอ่อน เทคนิคงานสร้างทุ่มทุนเป็นอย่างดี และช่วยเติมเต็มอารมณ์ให้กับตัวหนังได้ดีระดับที่น่าพอใจ
แต่หนังก็ยังมีจุดบกพร่องประปรายอยู่ตามรายทาง ไม่ว่าจะเป็นความย้วยของหนังที่ยาวเกินจำเป็น มีหลายๆ ส่วนที่สามารถกระชับและควรรู้จักย่อความได้กว่านี้ กับองค์ประกอบหลุดๆ บางฉากบางซีนที่เห็นปล่อยออกมาได้ไม่ค่อนน่าประทับใจสักเท่าไหร่ (เห็นฉากหนึ่งก็คือเป็นสตันท์ของ เจค จิลเลนฮาล ตัวเป็นๆ เลย) ขณะที่เนื้อเรื่องเข้มข้นแต่ยังไร้ความจัดจ้าน เหมือนใส่เข้ามาให้เต็มๆ ไว้ก่อน แต่กระนั้นคอหนังแนวนี้ก็คงจะชอบ หรือแฟนๆ หนัง ไมเคิล เบย์ ก็น่าจะเอ็นจอยไปด้วย