เลขดี

The Green Knight (2021) เดอะ กรีน ไนท์

The Green Knight (2021) เดอะ กรีน ไนท์

และนี่คือ…ลำนำตำนานที่เล่าขานกันมาของเขา อันเชิญมาเสพงานอาร์ตชั้นดีที่ถูกถ่ายทอดออกมาได้อย่างมีท่วงทำนองที่จัดจ้านและสมดุลอย่างน่าทึ่ง นี่คือ The Green Knight” (ศึกโค่นอัศวินอมตะ) ที่คงจะต้องออกตัวก่อนเลยว่า…มันไม่ใช่หนังที่เหมาะกับคนดูทุกคน ด้วยเสน่ห์และคมคายที่ใช้เล่าเรื่องนั้น เตือนไว้ก่อนเลยว่า…อย่าให้ชื่อเรื่องภาษาไทยหลอกเราได้ เพราะแท้จริงแล้วนี่คือหนังดราม่าผจญภัยสายดาร์กปรัชญาจ๋าๆ เรื่องหนึ่งเลยทีเดียว

The Green Knight เป็นเรื่องราวของ เซอร์กาเวน หลานชายผู้บ้าบิ่นและเอาแต่ใจของคิงอาเธอร์ ที่ออกไปทำภารกิจเผชิญหน้ากับ อัศวินมรกต ซึ่งเป็นบททดสอบสำคัญของเหล่าอัศวิน เซอร์กาเวนได้เดินทางฟันฝ่าอุปสรรคนานา ต้องรับมือกับวิญญาณอาฆาต, ยักษ์, โจร เพื่อค้นหาตัวเอง และพิสูจน์คุณค่าของเขาต่อครอบครัวและอาณาจักร เขาพร้อมเดิมพันทุกอย่างเพื่อก้าวข้ามศึกสำคัญครั้งนี้ ไม่เว้นแม้แต่ชีวิตของเขาเอง

แค่สังเกตดูโลโก้ค่ายหนัง A24 ก็จงทำให้ทุกคนฉุกขึ้นและเผื่อใจได้เลยว่า นี่จะต้องไม่ใช่หนังธรรมดาๆ ทั่วไปอย่างแน่นอน เพราะก็ใช่แล้ว The Green Knight คือหนังสไตล์อาร์ตเฮ้าส์ที่มาพร้อมกับการเล่าเรื่องแบบแพรวพราว เล่าเรื่องเหมือนบทกวีที่ใช้ถ้อยคำที่เสนาะหู ยิ่งได้ดูแบบเสียงออริจินัล น่าจะไหลลื่นกว่าดูแบบพากย์ไทย หนังยังแฝงมาด้วยปรัชญาผ่านภาพเหตุการณ์ต่างๆ มากมาย จะดูแบบผิวเผินผ่านไปหรือนำไปคิดวิเคราะห์ตีความต่อก็ทำได้

The Green Knight (2021) เดอะ กรีน ไนท์

ชื่อไทยของหนังที่ว่า ศึกโค่นอัศวินอมตะ ที่เชื่อว่าฟังๆ แล้วหลายคนอาจจะเข้าใจว่าเป็นหนังแอคชั่นฟาดฟันแย่งชิงกันแน่ๆ แต่หาไม่ว่า…ไม่มีอะไรแบบนั้นในเรื่องนี้นะ เพราะนี่คือการตีความใหม่ของเรื่องราวตำนานปรัมปราที่บางคนอาจจะเคยได้ยินมาตั้งแต่ช้านาน เป็นการหยิบมาตีความใหม่ได้แสนคมคายของผู้กำกับ “เดวิด โลเวรี่” ที่เขายังรับหน้าที่เขียนบทหนังขึ้นเองด้วย เรียกได้ว่างานกำกับและงานบทของเขานั้น ทำออกมาได้ค่อนข้างน่าพอใจ เกือบจะสมบูรณ์ และมีโครงเรื่องที่ซ่อนมิติต่างๆ เอาไว้ตลอดทั้งเรื่อง

นอกจากบทที่ค่อนข้างโดนเด่นแล้ว อีกสิ่งที่มีเอกลักษณ์และเด่นไม่แพ้กันเลยก็คือ องค์ประกอบศิลป์ต่างๆ ทั้งงานถ่ายภาพและเทคนิคเล่นกับแสงสีต่างๆ ที่ถูกนำมาใช้ในนั้น ถือว่าเป็นไฮไลต์ที่ขับความจัดจ้านให้กับหนังได้เป็นอย่างดี และสามารถดึงดูดสายตาผู้ชมเอาไว้ได้ดี โดยเฉพาะมุมภาพและการออกแบบในแต่ละฉาก เห็นได้ชัดถึงความพิถีพิถันในการใส่รายละเอียดลงไปอย่างบรรจง การย้อนสีดูสมดุลและเข้ากับท้องเรื่อง เรียกได้ว่าองค์ประกอบในส่วนนี้ค่อนข้างเป็นสิ่งที่น่าพอใจและชอบไม่เบา

ในขณะที่ “เดฟ พาเทล” รับหน้าที่แบกหนังทั้งเรื่องเอาไว้ได้อย่างสบายๆ ตลอด 2 ชั่วโมงของหนัง เขาต้องรับบทหนักกับคาแรกเตอร์หลักที่ส่วนใหญ่จะเล่นคนเดียวด้วยซ้ำ แน่นอนว่าไว้วางใจเขาได้เลยกับการถ่ายทอดชิ้นงานหนังดราม่าเช่นนี้ ทุกอย่างสอบผ่านไปได้ด้วยดี ไม่ว่าจะเป็นสีหน้าแววตาและอิริยาบถต่างๆ เข้าขั้นมืออาชีพเป็นอย่างดี แม้ว่าตัวบทของคาแรกเตอร์นี้จะส่งเสริมเขาได้เป็นอย่างดี เพราะความมีมิติในบทที่ดูมีชั้นเชิง และน่าจะเป็นอีกหนึ่งบทที่เป็นงานมาสเตอร์พีชของเขาเลย

The Green Knight (2021) เดอะ กรีน ไนท์

แต่อย่างไรก็ตาม จุดด้อยของ The Green Knight ก็น่าจะเป็นการตีความตำนานเรื่องเล่าโบราณออกมาในรูปแบบที่ยูนีคสุดๆ สุดทางจนบางครั้งก็ไม่อาจจะเข้าถึงกลุ่มคนดูวงกว้างได้ ต้องยอมรับเลยว่า…หนังเรื่องนี้ไม่ได้สร้างออกมาให้เหมาะกับคนดูทุกประเภท เพราะหนังไม่ได้เป็นหนังที่ดูง่าย แต่ก็ไม่ได้เข้าใจยากในระดับที่เกินไป อาจจะมีสัญลักษณ์และการตีความในฉากต่างๆ เข้ามาให้คนดูได้ขบคิดตาม และหากเป็นมุมมองคนดูทั่วๆ ไปนั้น หนังอาจจะน่าเบื่อไปเสียด้วยซ้ำ เพราะช่วงแรกคือเป็นจุดที่กระตุ้นความง่วงนอนได้เป็นอย่างดีทีเดียว

เอาเป็นว่า The Green Knight เป็นหนังที่ดี ดีเด่นในด้านองค์ประกอบงานสร้าง ดีเด่นในด้านบทภาพยนตร์ และยังมีงานกำกับและการแสดงที่ค่อนข้างทำออกมาได้น่าพอใจ ไม่ประหลาดใจเลยว่าหนังจะได้รับคะแนนคำวิจารณ์จากเหล่านักวิจารณ์ที่ค่อนข้างสูง แต่กลับสวนทางกับคะแนนความชื่นชอบของคนดู ที่เหมือนจะได้แค่เพียงเกรด C+ จากการสำรวจของ CinemaScore ในสหรัฐอเมริกา แต่คงยอมรับว่า นี่คือหนังผจญภัยแฟนตาซีที่เต็มไปด้วยสัญลักษณ์และความงดงาม ไม่ได้สร้างมาเป็นหนังแมสทั่วไป

โดยภาพรวมแล้ว ก็คงจะต้องชื่นชมให้ The Green Knight ศึกโค่นอัศวินอมตะ เป็นหนังที่ทำออกมาได้น่าพอใจ คนที่เคยมีพื้นฐานและเคยอ่านเรื่องราวตำนานนี้มาก่อนก็น่าจะรู้สึกเอ็นจอยไปกับฉบับตีความใหม่ครั้งนี้ แต่สำหรับคนที่ไม่เคยได้ยินตำนานนี้มาก่อนและมีดูหนังเรื่องนี้ ก็น่าจะดูได้เข้าใจไม่ยากเท่าไหร่ เพียงแค่ต้องฝ่าด่านการเล่าเรื่องสไตล์บทกวีและโคลงกลอนที่ต้องวิเคราะห์สักหน่อยกับบางฉากบางตอน จึงต้องพูดบอกว่า…นี่เป็นหนังที่ดี เพียงแค่อาจจะไม่เหมาะกับทุกๆ คนที่จะดูแล้วเข้าถึงมัน

ตัวอย่างหนัง The Green Knight (2021) เดอะ กรีน ไนท์

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *